อีเมล์
รหัสผ่าน
ลืมรหัสผ่าน
สมัครสมาชิก
วิธีหนีนรก ตามแนว “หลวงพ่อฤาษีลิงดำ”
15-ตอน-สัมผัสยมทูตมารับวิญญาณ

ตอน : สัมผัส ยมฑูตมารับวิญญาณ

          เพื่อไม่ให้เสียเวลา วันนี้ ผู้เขียน ณัชพล เทพนิมิต จะชวนท่านผู้อ่าน ไปคุยกับ อ.ตุ้ย  เอ็กซเรย์โดยเร็วดีกว่าครับ อ.ตุ้ย กล่าวว่า เรื่องที่จะเล่าในวันนี้ ขอย้อนกลับไปเมื่อประมาณกว่า 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้น อายุผมน่าจะ ประมาณ 36 ปี มียศเป็น จ่าสิบเอก แล้ว ช่วงนั้นผมรับราชการทหารประจำอยู่ที่ กองพันทหารม้าที่ 5 กองพลทหารม้าที่ 2 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี

 

          ช่วงเวลาขณะนั้น ผมสังเกตุได้ว่า มันมีเรื่องแปลกมากอยู่เรื่องหนึ่ง กล่าวคือ ไม่ว่าผมจะไปอยู่ ณ สถานแห่งไหน อย่างไร พอถึงเวลาประมาณ 24.00 น. หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า  เป็นเวลา เที่ยงคืนผมจะต้องได้รับการสัมผัสกับวิญญาณชนิดหนึ่ง วิญญาณชนิดนี้ ผมไม่อยากจะเรียกว่าวิญญาณเลย เพราะเขาจะเหนือกว่าวิญญาณธรรมดาๆ มาก ผมได้รับการติดต่อเป็นเวลาหลายคืนติดต่อกัน นับรวมแล้ว เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หรือ จะเรียกเป็นเดือน ก็คงไม่ผิด

          ความหมายของผมก็คือ เป็นวิญญาณที่มีหน้าที่ มารับวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว ลักษณะเช่นนี้ ผมจึงเรียกไม่ค่อยถูก ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอผมได้ไปคุยกับผู้ใหญ่ ได้คุยกับคนที่รู้เรื่องเหล่านี้ดี เขาบอกว่า น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือจะเรียกว่าเป็นลูกน้องของท่าน พระยายมราชก็คงไม่ผิด หรือถ้าจะเรียกให้ถูกต้อง เป็นจริงที่สุด ก็ต้องเรียกว่า ท่านยมทูต

 

          การสัมผัสระหว่างผมกับท่านยมฑูตนั้น เป็นการสัมผัสแบบไม่ได้เห็นตัวเห็นตนของท่าน  เป็นแค่ได้ยินทางเสียง หรือจะเรียกว่าเป็นการสัมผัสทางจิตก็คงได้ รับรู้ได้จากทางจิต หรือ ใช้จิตสัมผัสนั่นเอง เรื่องนี้ผมยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยนะ จึงถือเป็นครั้งแรกที่ผมนำเรื่องนี้ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นประสบการณ์ในช่วงหนึ่งของผม เป็นช่วงที่ผมมีอายุประมาณ 36 ปี

 

          ท่านผู้อ่านจะสังเกตุได้ว่า บางเรื่องที่ผมเล่า อาจจะรู้สึกเป็นเรื่องที่ แปลก สนุก ตื่นเต้น  แต่บางเรื่องก็อาจจะรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดาๆ ไม่ค่อยตื่นเต้นสักเท่าไร แต่ยังไง ผมยังต้องขอยืนยันกับท่านผู้อ่านทุกท่านว่า  มันเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้นครับ ที่สำคัญ ผมยังจะต้องมีการพิสูจน์ความจริงตามหลังอีกว่า สิ่งที่ผมได้พบได้เห็นในเรื่องนั้นๆ มันเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร หรือว่าเราอาจคิดมากไปเอง เรียกว่าต้องมีการพิสูจน์ความจริงทุกครั้งเสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่กำลังเล่าอยู่นี้ ก็ต้องมีการพิสูจน์เช่นกัน จึงจะกล้านำมาเล่าในคอลัมน์นี้

 

          เรื่องนี้ก็เช่นกัน ในเมื่อมันเป็นวิญญาณที่แตกต่างจากวิญญาณทั่วๆ ไป หรือที่เรามักเรียกว่า ยมทูตท่านเหล่านี้ จะเข้ามาสัมผัสกับผมในช่วงเวลา เที่ยงคืนคล้ายกับว่า เป็นช่วงรอยต่อของ วันใหม่ ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่ได้เห็นภาพเหมือนกับวิญญาณอื่นๆ ที่เคยสัมผัสมาก่อน แต่ผมสามารถสื่อสารทางจิตกับท่านได้ สามารถเข้าใจกันได้

 

          คืนแรกที่เข้ามาสัมผัสกับผมนั้น ท่านบอกว่า ท่านมาทำหน้าที่ของท่าน ส่วนตัวผมก็ทำหน้าที่ของผม เหมือนกับจะบอกให้รู้ว่า ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง ผมสื่อสารโดยสอบถามทางจิตไปยังท่านว่า ท่านมาทำหน้าที่อะไรหรือ ท่านตอบผมว่า ท่านมาทำหน้าที่ ตามเก็บวิญญาณของคนที่ออกจากร่างไปแล้ว หมายความว่า วิญาณของคนที่ตายไปแล้วนั่นเอง ท่านบอกด้วยว่า ทุกๆ วิญญาณ จะต้องมีผู้ควบคุม ท่านมีหน้าที่แบบนี้ ความรู้สึกของผมรู้ทันทีเลยว่า ท่านหมายถึงอะไร  มันคืออะไรกันแน่ ผมรู้ทันที

         

          อธิบายได้ว่า อ.ตุ้ย เอ็กซเรย์เริ่มขยายความให้ผู้เขียนฟังต่อไปว่า ท่านเป็นเจ้าหน้าทางโลกวิญญาณ กล่าวคือ เวลาที่คน หรือ มนุษย์ ได้ถึงแก่กรรมลง ไม่ว่าจะตายดีหรือตายไม่ดี  เมื่อวิญญาณเหล่านี้ ได้ออกจากร่างกายไปแล้ว วิญญาณจะต้องถูกนำตัวไปให้ท่าน พระยายมราชพิจารณาความดีความชอบ หากบุคคลผู้นั้น สร้างแต่กรรมดีเมื่อยังมีชีวิตอยู่ พอ พระยายมราชพิจารณาคดีแล้ว ก็จะต้องส่งวิญญาณท่านผู้นั้น ไปเสวยความสุขอยุ่บนสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่ง ในจำนวนท้งสิ้น 16 ชั้นตามที่เราได้ยินมาเสมอๆ แต่ตรงกันข้าม ถ้าบุคคลผู้ใดสร้างแต่กรรมชั่วระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังการพิจารณาคดีของ พระยายมราชแล้ว วิญญาณจะถูกส่งตัวไปรับโทษที่ อเวจีมหานรกขุมใดขุมหนึ่ง ต้องทนทุกข์ทรมานนานนับเป็นล้านๆ ปี จนกว่าจะหมดกรรม ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อหมดกรรมจาก อเวจีมหานรก แล้ว ยังจะต้องมาเกิดเป็น เปรต-อสูรกาย-สัตว์เดรัจฉานอีกหลายร้อยหลายพันชาติอีกด้วย

 

          อ.ตุ้ย เล่าต่อไปว่า ผมคุยกับท่านทางจิต มันเหมือนกับคนหรือมนุษย์นั่งคุยกันยังไงยังงั้น ผมถามท่านอีกว่า แล้วบริเวณ กรมทหารม้า ของผม หรือที่อยู่ใกล้ๆ กับ กรมทหารม้า ที่ผมสังกัดอยู่ล่ะ จะมีผู้เสียชีวิตหรือที่เรียกว่า จะมีวิญญาณออกจากร่างกายหรือไม่ ท่านยมทูต ตอบว่า มี เดี๋ยวรออีกไม่กี่เวลา ไม่กี่เวลาก็หมายถึงรออีกไม่นานนี้แหล่ะ จะต้องมีคนตาย แล้ววิญญาณออกจากร่างมาให้ ท่านยมทูต เป็นผู้ควบคุมตัวอย่างแน่นอน

 

          การสัมผัสกับผมนั้น มันเป็นการสัมผัสแบบ โต้-ตอบเป็นการสัมผัสทางจิต ผมเคยเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบมาก่อนแล้วว่า ถึงแม้ว่าบางท่านจะสามารถสัมผัสกับวิญญาณได้ก็จริง แต่ก็สัมผัสได้ไม่ชัดเจน ไม่แจ่มใสมากนัก มีความแตกต่างกันไปตามสถานะของแต่ละบุคคล ซึ่งท่านผู้อ่าน ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านอีกเหมือนกัน ผมพยายามเน้นถามว่า แล้วหน้าที่แบบนี้ของท่าน จะสิ้นสุดลงเมื่อไร ท่านตอบว่า มีการทดแทนกัน มีผู้มาทดแทน แล้วแต่อาณาเขตของแต่ละท่าน

 

          ผมถามอีกว่า บริเวณกรมทหาร ที่ผมสังกัดอยู่นี้ ที่บอกว่า จะมีคนตายนั้น จะตายสักกี่คน ท่านตอบว่า จะมีประมาณ 2-3 คน แต่จะมีอยู่คนหนึ่ง เหมือนไปๆ มาๆ คือ ดื้อ ติดขัด คือยมทูตจะควบคุมตัวไม่ค่อยได้ การสื่อสารทางจิตบอกมาเช่นนั้น

          หลังจากนั้นอีกประมาณ 4-5 วัน อยู่ดีๆ ก็มีทหารรุ่นพี่ของผมคนหนึ่ง ชื่อ จ่าสิบเอกบุญมี มีบ้านพักอยู่ใกล้ๆ กับกรมทหาร จ่าบุญมี เป็นคนชอบดื่มเหล้า วันนั้น จ่าบุญมี มีเรื่องทะเลาะกับภรรยา แล้วคงจะเข้าไปทำร้ายร่างกายภรรยา  ภรรยาก็เลยผลัก จ่าบุญมี อย่างแรง ทำให้ จ่าบุญมี ต้องตกลงมาจากบ้านไม้เช่า จากชั้นที่ 2 ตกลงมาอย่างแรงถึง ชั้นล่าง ศีรษะฟาดกับพื้น ทำให้ จ่าบุญมี ตายคาทีทันที นับได้จำนวน 1 ศพก่อน

          ถัดไปอีกวันหนึ่ง ยายที่มีบ้านติดกับบ้าน จ่าบุญมี อายุมากแล้ว อายุประมาณ 75 ปี มีโรคประจำตัวหลายโรค อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ ฯลฯ ปรากฏว่า ยายได้เสียชีวิตลงในวันถัดไป รวมกับศพ จ่าบุญมี เป็น 2 ศพ

 

          ถัดมาอีกไม่กี่วัน ลูกของคนที่มีบ้านพักอยู่ใกล้กับ กรมทหาร เหมือนกัน เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ  10 ขวบ ก็ต้องจมน้ำตายอีก 1 ศพ ตายโดยไม่สมควรตายเพราะ มันเป็นแอ่งน้ำ ตื้นๆ พ่อ-แม่ ก็กำลังไปรับจ้างเก็บผัก เก็บผลหมากรากไม้ พ่อ-แม่ ก็นำลูกสาวติดตัวไปด้วย  แต่ในระหว่างที่ พ่อ-แม่ กำลังง่วนอยู่กับการเก็บผักผลไม้ ก็มีคนวิ่งมาบอกว่า เห็นลูกสาวของเชา นอนตายอยู่บริเวณหน้าแอ่งน้ำเสียแล้ว ตายในลักษณะนอนหงาย ชาวบ้านสันณิษฐานว่า น่าจะคลานขึ้นมา แต่ขาดใจตายเสียก่อน อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นแล้วว่า เป็นแอ่งน้ำตื้นๆ

 

          พ่อ-แม่ รีบนำลูกสาวส่ง โรงพยาบาล ทันที ปรากฏว่า หมอแทงเรื่องว่า ลูกสาวของเขาได้เสียชีวิตก่อนนำส่ง โรงพยาบาล แล้ว สร้างความเสียใจให้กับ พ่อ-แม่ คู่นี้เป็นอย่างมาก และในขณะที่หมอกำลังจะฉีดน้ำยากันศพเน่า หรือที่เรามักรียกว่า ฉีดน้ำยา "ฟอมารีน" หมอและพยาบาล ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อปรากฏว่า เด็กคนนี้มีอาการเคลื่อนไหว พร้อมสำลักขี้โคลนออกมาจากปากมากมาย เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ หมอ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ก็ต้องยืนงงกันเป็นแถว  เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่า ในเมื่อเด็กไม่หายใจแล้ว เครื่องวัดชีพจรก็หยุดเต้นแล้ว ทุกอย่างกำลังเตรียมขั้นตอนนำส่งห้องดับจิตแล้ว เด็กจะมาฟื้นได้ง่ายๆ อย่างไรกัน แต่ในที่สุด เด็กคนนี้ก็ฟื้นจนได้ เมื่อภาพของคนทั้ง 3 ออกมาเป็นรูปแบบนี้ เรื่องยังไม่จบครับ

 

          อ.ตุ้ย เล่าต่อไปว่า ทุกๆ คืนเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน เป็นเวลาที่กำลังจะขึ้นวันใหม่ ไม่ว่าช่วงเวลานั้น ผมกำลังทำธุระอะไร จะอยู่ที่ไหน อย่างไร ไม่ว่ากำลังอยู่บนเตียง อยู่ภายใน กรมทหาร หรืออยู่ภายนอก กรมทหาร สิ่งที่ผมเรียกว่า ท่านยมทูตก็จะเข้ามาสัมผัสกับผมทันที  แม้กระทั่งขณะที่ผมกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ เพราะเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ผมยังใช้รถจักรยานยนต์อยู่เลย

 

          ช่วงนั้น ผมยังไม่เคยบอกให้ใครทราบมาก่อนว่า ผมมีสิ่งนี้ คือเป็นคนมีญาณ ตาทิพย์  ผมสามารถสัมผัสกับวิญญาณได้ ผมสามารถเอ็กซเรย์เรื่องต่างๆ ได้ แม้กระทั่งผมเคยเอ็กซเรย์ตัวเองว่า จะมีอายุไขประมาณเท่าไร จึงจะจากโลกใบนี้ไป ผมเคยเอ็กซเรย์ตัวเอง ก็ได้คำตอบมาแล้ว แต่ยังไม่เคยบอกกับใคร คราวนี้ ในเมื่อผมสัมผัสกับท่านยมทูตได้ ผมจึงถือโอกาสถามท่านว่า ตัวผม จะหมดอายุไขประมาณเท่าไร แต่ผมก็อดที่จะเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า ผมอาจจะ ผมขอพูดว่า อาจจะนะ  ผมอาจจะ ได้รับการต่ออายุไข เพราะบุญกุศลที่ผมได้สร้างไว้อย่างมากมายและต่อเนื่อง ผมเคยช่วยเหลือใครต่อใครมาก็มาก ผมจึงอาจได้รับการต่ออายุอีกสักประมาณ 5-6 ปีก็อาจเป็นไปได้

          ผมพยายามถาม ท่านยมทูตว่า ถ้าผมต้องจากโลกใบนี้ไปแล้ว จะมีวิญญาณมารับผม มาพาผมไปพบท่าน พระยายมราชแบบนี้ไหม คำตอบที่ผมได้รับก็คือ มี-เหมือนกันท่านตอบผมมาสั้นๆ ว่า มี-เหมือนกันผมถามต่อไปว่า อีกนานไหมท่านยมทูตตอบว่า ก็เหมือนดั่งที่ตัวเองรู้นั่นแหล่ะ  ประโยคนี้ชัดเจนมากเลย ในเมื่อผมเคยเอ็กซเรย์ตัวเองมานานหลายปีแล้วว่า ผมจะหมดอายุไขเมื่อไร แต่ผมยังไม่เคยบอกให้ใครรู้มาก่อนเลยนะ

 

          ท่านยมทูตกลับตอบผมว่า ก็เหมือนดั่งที่ตัวเองรู้นั่นแหล่ะตอนนั้น ผมขนลุกเลยครับ  คำตอบที่ผมถาม ก็อยากจะเล่าให้ท่านผู้อ่านทราบ ณ ที่นี้เลย คือผมเคยเอ็กซเรย์อายุไขของตัวเองว่า จะมีอายุสักประมาณเท่าไร จึงจะจากโลกใบนี้ไป สิ่งที่ผมรับรู้เมื่อตอนเอ็กซเรย์ก็คือ  ประมาณอายุ 75 ปีจึงจะหมดอายุไข แต่ภาพที่ผมมองเห็น เมื่อวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว ถูกท่านยมทูตนำพาตัวไปพบท่าน พระยายมราช แล้ว มันหาได้เป็นภาพวิญญาณที่มีร่างกายเหมือนกับรูปร่างของมนุษย์ก่อนตายไม่ แต่มันกลับกลายเป็นภาพเหมือนลำแสง หรือ หมอกควัน สีขาวๆ ยังไงยังงั้น

 

          อันนี้ผมก็ไม่กล้ายืนยันนะครับ อ.ตุ้ย เอ็กซเรย์ออกตัวกับผู้เขียน พร้อมกล่าวต่อไปว่า  เพราะตัวผมยังไม่เคยฝึกกรรมฐานมาก่อน จึงไม่รู้ว่า ผู้ที่ฝึกกรรมฐานจนได้ ทิพยจักขุญาณ แล้ว เวลามองเห็นวิญญาณ มันจะเป็นเช่นไร แต่สำหรับตัวผม มันกลับเห็นเป็นลำแสงสีขาว  หรือคล้ายกับหมอกควัน ทั้งๆ ที่เรื่องอื่นๆ ที่ผมเคยเล่าให้ฟังนี้ ก็เคยมองเห็นเป็นรูปวิญญาณ มีหน้ามีตาคล้ายกับรูปร่างของมนุษย์ก่อนตายนั่นแหล่ะ บางครั้งก็มาเป็นแบบรูปร่างเต็มตัว  บางครั้งก็มาแบบเห็นเฉพาะใบหน้าเท่านั้น

         

          แต่คราวนี้กลับเห็นเป็นลำแสงหรือหมอกควัน ก็แปลกดีนะ มันคล้ายๆ กับที่ผมทำการเอ็กซเรย์ผู้มาขอคำปรึกษาจากผม ถ้าเป็นคนดีหรือไม่ดี จะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ คือ ถ้าเป็นคนดี หรือ วิญญาณจะได้ไปสู่ในที่ สุคติ ภาพที่ผมมองเห็น ก็จะเป็นภาพแสงสีขาวๆ หรือสีขาวนวล แต่ถ้าไปในที่ปานกลาง ภาพที่เห็นก็จะเป็นภาพ สีเทาๆ และถ้าคนหรือมนุษย์ที่ตายไป จะถูกยมทูต นำพาไปในสถานที่ไม่ดี หรือ พระยายมราช จะตัดสินให้ไปอยู่ในที่ ทุคติ อันมี อเวจีมหานรกเป็นที่ไป เป็นต้น ก็จะเห็นเป็นภาพ สีดำ หรือเป็นหมอกควัน สีดำ ไปเลย เฉกเช่นเดียวกับที่ผมทำการเอ็กซเรย์ให้ใครต่อใคร ยังไงยังงั้น

 

          หลังจากที่ผมได้พูดคุยกับ ท่านยมทูต ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมา ภาพที่ผมไม่อยากเห็นก็ปรากฏขึ้นทันที  มันเป็นภาพที่คล้ายๆ กับท้องฟ้ามืดคลึ้ม ฝนกำลังจะตก ความรู้สึกของผมบอกว่า ระดับหัวหน้ากำลังมาตรวจงาน ผมไม่ได้บอกว่า ท่านคือพระยายมราชนะ ความรู้สึกของผมรับรู้ได้ว่า ท่านมาแบบเป็นมิตร พร้อมกับพูดสั้นๆ ว่า เจอกันผมนึกในใจว่า ถ้าสวรรค์หรือนรกมีจริง ผมคงไม่ได้ไปทั้งสวรรค์ หรือ นรก เป็นแน่ ผมอาจะไปอยู่ในขอบเขตที่ธรรมชาติเรียกว่าความ สมดุลย์โดยธรรมชาติที่ผมได้รับมา มันมีเหตุและผล เพียงนิดเดียว คือ ผมจะเห็นมีแสงกั้นกลาง ทุกครั้งที่ ท่านยมทูต ได้นำวิญญาณต่างๆ ไปสู่ที่เหมาะสม จะมีแสงตัดฉาก มันเป็นความรู้สึกของผมที่สัมผัสได้

 

          ผมพยายามถามท่านยมทูตว่า สิ่งนั้นคืออะไร ผมได้รับคำตอบทางจิตว่า นี่คือการกั้นกลาง  กั้นกลางด้วยระยะเวลา กั้นกลางคืออีกมิติหนึ่ง เมื่อผ่านพ้นไป ก็เป็นอีกมิติหนึ่ง คล้ายกับเป็นสถานที่บรรจุวิญญาณต่างๆ ถ้าดี ก็ขาวหรือสว่าง ปานกลาง ก็เป็นสีเทาๆ ถ้าไม่ดี ก็เป็นสีดำ

          ผมสัมผัสแบบนี้เป็นเวลาช่วงหนึ่ง ช่วงหนึ่งก็หมายถึงอาจจะนานประมาณ 3 เดือน การสัมผัสกับท่านยมทูตทุกเที่ยงคืนนั้น ไม่ได้หมายถึงท่านมาเก็บวิญญาณทุกครั้งนะครับ ท่านอาจมาเข้าเวร มาตรวจสอบ มาทำหน้าที่ อาจไม่มีวิญญาณให้เก็บก็ได้ ส่วนที่ผมถามท่านว่า จะมีคนตายในพื้นที่ กรมทหาร กี่คน แล้วท่านตอบว่า อาจจะมีคนตายประมาณ 3 คนนั้น หมายความว่าเป็นเฉพาะช่วงนั้น แต่สุดท้าย วิญญาณเด็กยังโชคดี ฟื้นได้ในภายหลัง

 

          อาณาเขตที่ท่านยมทูตรับผิดชอบนั้น อาจจะกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนทั่วทั้งจังหวัดสระบุรี ก็ได้ แต่ผมถามถึงคนตาย แค่อาณาเขตภายใน กรมทหารม้า ที่ผมสังกัดอยู่เท่านั้น ท่านมาเก็บวิญญาณ ท่านไม่ได้มาสอนผม และผมก็ต้องการสัมผัสเพียงเท่านี้ก็พอแล้ว เพราะถ้าผมสอดรู้สอดเห็น ขอสัมผัสเรื่องราวมากเกินไป ผมคิดว่า ถึงยังไงก็มีเรื่องให้รู้ชนิดไม่รู้จักจบจักสิ้นก็ได้

 

          เพราะโลกใบนี้ ถ้ามีโอกาสเกิดเป็นคนมาแล้ว การกระทำใดๆ ทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้หมด ไม่ว่าจะทำในเรื่องที่ดี หรือทำในเรื่องที่ไม่ดี ท่านพระยายมราช จะทราบจากเครื่องบันทึกโดยอัตโนมัติ ชนิดที่ว่า เมื่อท่านถามว่าเคยทำอะไรมาบ้าง เครื่องจะฉายภาออกมาเหมือนกับการนั่งดูจอ โปรเจ็คเตอร์ ทีเดียว  เรียกว่าจะมาเถียงกับท่าน หรือปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ก็คงไม่ได้อย่างแน่นอน และไม่ใช่ว่าผู้นำพาหรือ ท่านยมทูต จะต้องมาทำหน้าที่แบบนี้โดยตลอด เมื่อถึงเวลาพอสมควร ก็จะมีท่านผู้อื่นมาทดแทนทำหน้าที่นี้ต่อไป อย่างเป็นวัฏจักรเช่นนี้ไปเรื่อยๆ  การสัมผัสครั้งนี้ พูดอย่างตรงไปตรงมา ผมว่ามันน่ากลัวมากเลยนะ ทั้งเงียบ ทั้งมืดคลึ้ม ทั้งวิเวกวังเวง มืดจนผมมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากรอการสัมผัสทางจิตจาก ท่านยมทูต เพียงฝ่ายเดียว

          สุดท้าย ก็คงเหมือนเดิม สิ่งที่ผมจะแนะนำท่านผู้อ่าน มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ  เมื่อมีโอกาสเกิดเป็นคนหรือมนุษย์ อย่าให้มีกิเลส หรือ มีความโลภเข้าสิงจิต ต้องหมั่นทำบุญสร้างกุศลไว้มากๆ  ตอนตาย จะได้ตายอย่างสงบสุข ตายอย่างมีสติ มีสัมปชัญญะ มีสุคติเป็นที่ไปในสัมปรายภพนั่นแล.

 

-ณัชพล เทพนิมิต-

//////////////////////////////////////////////////////////////////////

 

 
ผู้ชม
วันนี้ 52
เมื่อวาน 90
ทั้งหมด 24,495,409
ชมหน้าอื่นๆ
วันนี้ 67
เมื่อวาน 122
ทั้งหมด 41,772,501

www.kontatiptv.com  © 2018 All rights reserved.

 
เว็บสำเร็จรูป
×